18 ข้อ The Psychology of Money หนังสือการเงินที่ไม่มีใครสอน

ผมไม่ได้โตมากับความรู้เรื่องการเงิน ไม่มีใครเคยสอนผมว่าการใช้เงินเกี่ยวอะไรกับอารมณ์ หรือว่าความกลัว ความโลภ มันผลักเรายังไง ผมรู้แค่ว่า "เงิน" มันหายไปเร็วมาก โดยเฉพาะตอนยังไม่มีแผนอะไรเลย

จนมาเจอหนังสือเล่มนี้  The Psychology of Money หนังสือที่เขียนโดย Morgan Housel
ที่พูดถึง “เงิน” ในแบบที่ไม่ใช่สมการ
แต่เป็นเรื่อง คน เป็นเรื่อง ชีวิต

และนี่คือ 18 ข้อคิดจากหนังสือเล่มนี้
ที่ทำให้ผมคิดกับเงิน “ช้าลง” แต่ “ลึกขึ้น”

the psychology of money

1. คนฉลาดก็พลาดได้ ถ้าอารมณ์ชนะเหตุผล

เราอาจอ่านกราฟเป็น ลงทุนเก่ง รู้สูตรทุกอย่าง
แต่พอเห็นตลาดแดง…ก็ขายทิ้งเพราะกลัวอยู่ดี
Morgan บอกว่า “ไม่มีใครบ้าหรอก แค่เรามีเรื่องราวของตัวเองต่างกัน”
บางคนเคยจนมาก่อน บางคนเคยล้มละลาย
เราเลยคิดไม่เหมือนกัน แม้จะเห็นเรื่องเดียวกัน

2. ความเข้าใจเรื่องเงินของเรา = ฟองสบู่ส่วนตัว

เราอาจมองว่าเงินเดือน 50,000 คือเยอะแล้ว
แต่กับคนอีกโลกหนึ่ง มันคือแค่ค่าคอมเดือนเดียว
นั่นแหละ โลกมันกว้างมาก อย่าตัดสินใคร และอย่าเผลอวัดค่าตัวเองด้วยสายตาคนอื่น

3. โชคสำคัญกว่าที่เรายอมรับ

Bill Gates โชคดีที่โรงเรียนเขามีคอมพิวเตอร์
เพื่อนเขาที่เก่งพอ ๆ กัน…ตายตอนปีนเขา
ดังนั้น บางคนรวยไม่ใช่เพราะเขาเก่งกว่า
แต่เพราะเขายังอยู่ในเกมได้ต่อ

4. เรื่องเล่าชวนฝัน มักขายดี...แต่ใช้จริงไม่ได้

ทุกกระแสบนโลกนี้มีเรื่องเล่าที่ “ฟังแล้วดี”
แต่พอเราโดดตาม แล้วไม่เป็นแบบเขา…ก็รู้สึกว่าเราผิด
แท้จริงแล้ว มันอาจไม่ใช่ “เรื่องจริง” เต็ม 100% ตั้งแต่แรกก็ได้

5. ออมเงิน...แม้ยังไม่รู้จะเอาไปทำอะไร

ไม่ต้องรอมีเป้าหมายใหญ่ค่อยเริ่มเก็บเงิน
เพราะการมีเงินสำรอง = มีสิทธิ์เลือก
ไม่ต้องทนทำงานที่ไม่ชอบ ไม่ต้องฝืนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่
เงินคืออิสระชนิดหนึ่งเลยนะ

6. คนที่ดูรวย ≠ คนที่รวยจริง

บางคนขับเบนซ์ ใส่โรเล็กซ์ แต่เป็นหนี้ทุกบัตร
บางคนใส่เสื้อยืดธรรมดา แต่มีพอร์ตเงียบ ๆ 8 หลัก
Morgan บอกว่า “ความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณยังไม่ใช้”
ใครไม่โชว์ อาจจะรวยสุด

7. “พอ” แล้วหรือยัง?

เราใช้เวลาทั้งชีวิตหา “มากกว่านี้”
แต่ไม่ค่อยถามตัวเองเลยว่า “เท่าไหร่ถึงจะพอ”
คนที่ไม่รู้จะหยุดเมื่อไหร่…คือคนที่ตกหลุมเร็วที่สุด

ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้มันกระตุกจิตกระชากใจดี
นี่เลย เลือกซื้อกันได้ครับ

กดนี่ครับ : หนังสือ The Psychology of Money
(แวะขายงี้เลย 😉)

8. การอยู่รอด = ความสำเร็จที่ underrated ที่สุด

ไม่ต้องรวยเร็ว ไม่ต้องเทพแค่ไหน
ขอแค่ “อยู่ในเกม” ให้นานพอ
ผลตอบแทนจากการทบต้นจะทำงานเองในที่สุด

9. ตลาด = สิ่งที่ไม่มีใครเดาได้

ไม่มีใครเคยทำนายวิกฤตได้จริง ๆ
อย่าเสียเวลาหาคำตอบที่ไม่มีใครรู้
ใช้เวลานั้นสร้างระบบที่คุณ “อยู่รอดได้” ดีกว่า

10. แผนที่ดีไม่ใช่แผนเป๊ะ แต่มีพื้นที่ให้ผิดพลาด

มีเงินสดเผื่อไว้บ้าง
มีเวลาเผื่อไว้บ้าง
มีความยืดหยุ่นเผื่อไว้เยอะ ๆ
ชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป

11. อย่าก๊อปคนที่ไม่ได้เล่นเกมเดียวกับคุณ

เพื่อนที่ลงทุนวันละสิบดีล อาจไม่มีภาระอะไรเลย
ส่วนคุณมีลูก มีบ้าน มีพ่อแม่ให้ดูแล
อย่าเอาชีวิตเราไปเทียบกับสูตรคนอื่น
เพราะไม่มีใครเล่นเกมเดียวกันกับคุณเป๊ะหรอก

12. อย่าอายที่จะมองโลกในแง่ดี (อย่างมีเหตุผล)

ทุกคนชอบพูดว่า “ระวังไว้ก่อน”
แต่คนที่ไปได้ไกล มักเป็นคนที่ “เชื่อว่ามันจะดีขึ้น”
โดยที่ยัง “เผื่อใจว่าอาจมีเรื่องแย่เกิดขึ้นระหว่างทาง” ด้วย

13. Warren Buffett ไม่ได้ชนะเพราะผลตอบแทนสูง แต่เพราะอยู่ในเกมนาน

เริ่มเร็ว = ทบต้นไว
อยู่รอดได้นาน = ผลตอบแทนทับซ้อน
ไม่ต้องหาทางลัด แค่อยู่ให้รอด และอยู่ให้พอ

14. เราเปลี่ยนตลอดเวลา — แผนต้องยืดหยุ่นตาม

สิ่งที่เราต้องการตอนอายุ 25 อาจไม่เหมือนตอน 35
แผนการเงินที่ดีไม่ใช่แบบตายตัว
แต่มันปรับได้ตามชีวิตที่เปลี่ยน

15. “อิสรภาพในการจัดการเวลา” คือผลตอบแทนที่ดีที่สุดของเงิน

เงินมากมายไม่สำคัญ ถ้ามันแลกมากับชีวิตที่ไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย
เงินที่ดี = เงินที่ให้คุณบอกว่า “วันนี้ฉันอยากทำอะไร”

16. ออมเงินให้มากกว่าที่คิด แม้รายได้จะไม่มาก

คุณควบคุมเงินเดือนอาจไม่ได้
แต่คุณควบคุมวิธีใช้เงินได้
บางทีชีวิตที่เรียบง่ายก็คือ “ทางลัด” สู่ความมั่นคง

17. ความสำเร็จมักซ่อนอยู่ในช่วงที่ไม่มีใครเห็น

ไม่ใช่ทุกวันจะตื่นเต้น ไม่ใช่ทุกเดือนได้กำไร
แต่การทำสิ่งเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ อย่างมีวินัย
คือสิ่งที่สร้างผลลัพธ์ใหญ่เสมอ

18. การลงทุนทุกอย่างมีราคา — ไม่ใช่แค่เงิน

เวลาเหนื่อยจากตลาด เวลาแพนิกจากข่าว
นั่นคือ “ราคาที่ต้องจ่าย” เพื่อความมั่งคั่งในอนาคต
มันไม่ฟรีหรอกครับ แต่มันก็คุ้ม

✨ ที่ผมอยากชวนคิด

“เป้าหมายของเงิน” อาจไม่ใช่การสะสม แต่มันคือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่คุณอยากอยู่


ถ้าคุณอยากรู้ว่าควรเริ่มต้นวางแผนทางการเงินยังไง…ลองอ่านหนังสือ The Psychology of Money แล้วค่อย ๆ ลองคิดดูว่า
เงินแบบไหนที่ “ให้ความสงบ” กับคุณ
ไม่ใช่แค่ให้ “เสียงปรบมือจากคนอื่น”

ถ้าอยากอ่านแบบเต็มๆ เน้น กดซื้อได้ครับ

หนังสือ The Psychology of Money

From the same category