ติดตั้ง WordPress บน Vultr ง่าย ๆ พร้อมเครดิต $300 🧭

ตอนที่ผมอยากมีเว็บของตัวเอง ตอนเริ่ม จำได้เลยว่าสิ่งแรกที่คิด.. ยากเกินไปมั้ง

วันนี้ผมพาคุณเดินทางแบบ step-by-step ติดตั้ง WordPress บน Vultr ได้ใน 1 วัน!

จริงๆผมเขียนบทความนี้ไว้แล้วในเว็ปไซต์หลักที่ผมขายของอยู่ แต่อยากแยกเว็ปให้มันไม่ซ้ำซ้อนกัน ไปอ่านกันได้นะบทความ Vultr คือ?

ติดตั้ง wordpress

ทำไมเราถึงเลือก Vultr + OpenLiteSpeed WordPress?

เพราะมันคือสูตรลับที่หลายคนใช้ทำเว็บให้เร็วสุด เสถียรสุด และมีความปลอดภัยในระดับสูง

“OpenLiteSpeed” คือเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่เบา เร็ว และประหยัดทรัพยากรสุด ๆ “Vultr” คือผู้ให้บริการ Cloud VPS ที่ราคาสมเหตุสมผล ใช้งานง่าย

โดย Vultr มี Template สำเร็จรูปที่ติดตั้งทุกอย่างให้คุณพร้อมใช้ทันที ทั้ง WordPress + OpenLiteSpeed + MariaDB + phpMyAdmin + SSL + Redis

ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น สิ่งนี้จะทำให้คุณประหยัดเวลาและไม่หลงทางแน่นอน

เราจะแบ่งบทความนี้ออกเป็น 5 ช่วงหลัก:

  1. ซื้อชื่อโดเมน

  2. ตั้งค่า Cloudflare

  3. ติดตั้ง WordPress บน Vultr

  4. เชื่อมต่อโดเมน + เริ่มติดตั้งจริง

  5. ตั้งค่า SSL แบบ Full Strict (ปลอดภัยสุด ๆ)

ขั้นตอนที่ 1: ซื้อชื่อโดเมน

  • ชื่อโดเมน คือ ที่อยู่เว็บไซต์ของคุณ เช่น myawesomebrand.com

    เราขอแนะนำให้ซื้อกับ Namecheap เพราะใช้งานง่าย ราคาดี แถมมี Privacy ให้ฟรีตลอดชีพ (ช่วยซ่อนข้อมูลส่วนตัวคุณจากสาธารณะ)

    ขั้นตอน:

    1. เข้าเว็บไซต์ Namecheap

    2. พิมพ์ชื่อโดเมนที่ต้องการ เช่น youbrand.com

    3. ถ้ามันว่างอยู่ คลิก “Add to Cart”

    4. ดำเนินการชำระเงิน ใส่ชื่อ ที่อยู่จริง (เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต)

    5. ตรวจสอบอีเมลยืนยัน และเข้า Dashboard ให้เรียบร้อย

กดอ่านขั้นตอนแบบละเอียด
ซื้อชื่อโดเมนผ่าน Namecheap
สรุปครบ: ของที่ต้องเตรียม + 8 ขั้นตอน + ทิปส่วนลด/ความปลอดภัย
เตรียม: ข้อมูลส่วนตัว (ชื่อ-ที่อยู่-โทร-อีเมล) + บัตรเครดิต/เดบิต
  1. เข้าผ่านลิงก์ — ไม่แนะนำเข้าหน้า Namecheap.com ตรง ๆ หากคุณมีลิงก์ส่วนลด/ผู้แนะนำ
  2. ค้นหาโดเมน — ใส่ชื่อ (เช่น lucanos-test.com) ถ้าว่างจะมีเครื่องหมายถูกสีเขียว; ถ้าไม่ว่างให้ลองชื่อใหม่หรือเปลี่ยน TLD (.org .net .co.uk)
  3. Add to Cart > Checkout — หรือคลิกไอคอนตะกร้า > View Cart
  4. ตรวจสอบ & ตั้งค่า — ชื่อถูกต้อง, เปิด Domain Privacy (ส่วนใหญ่ฟรี), เลือกลงทะเบียนหลายปี, เปิด Auto-renew, ใส่โค้ดส่วนลดถ้ามี
  5. สร้างบัญชี & กรอกข้อมูลจริง — Privacy จะช่วยซ่อนข้อมูลใน WHOIS
  6. ชำระเงิน — เลือกวิธีชำระ, ตรวจข้อมูล, กด Confirm Order / Pay Now
  7. ยืนยันอีเมล — กดลิงก์ยืนยันตัวตนเพื่อเปิดใช้โดเมนสมบูรณ์
  8. เข้า Dashboard — โฮเวอร์รูปโปรไฟล์ > Dashboard เพื่อดูโดเมน (เตรียมใช้เปลี่ยน Name Servers ภายหลัง)
↑ กลับด้านบน

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Cloudflare (ฟรี SSL + DNS เร็วขึ้น)

Cloudflare คือบริการที่ช่วยให้เว็บไซต์คุณโหลดเร็ว ปลอดภัย และมี SSL แบบฟรี

วิธีตั้งค่า:

  1. สมัครบัญชีที่ cloudflare.com

  2. คลิก Add a Site แล้วใส่โดเมนของคุณ

  3. เลือกแผน Free

  4. Cloudflare จะให้คุณเปลี่ยน Name Server (เอาที่ได้ ไปใส่ใน Namecheap)

  5. รอประมาณ 10-30 นาทีให้ DNS Update

  6. กลับมาที่ Cloudflare แล้วกด “Check Name Servers”

ปล่อยไว้ก่อนครับ เดี๋ยวเราจะกลับมาตั้งค่า DNS อีกครั้ง

กดอ่านขั้นตอนแบบละเอียด
ตั้งค่า Cloudflare สำหรับ DNS และ SSL เบื้องต้น
Cloudflare ให้ DNS เร็วและฟรี + SSL ช่วยความปลอดภัยและประสิทธิภาพเว็บ
ทิป: เปลี่ยน Name Servers แล้ว อาจต้องรอการกระจาย DNS (โดยทั่วไป ~10–30 นาที; ผู้ให้บริการมักแจ้งสูงสุด 48 ชม.)
  1. สมัครหรือเข้าสู่ระบบ Cloudflare — หากยังไม่มีบัญชีให้ลงทะเบียน หากมีแล้วให้เข้าสู่ระบบ
  2. เพิ่มเว็บไซต์ของคุณ — คลิก Add a site ใส่โดเมนที่เพิ่งซื้อ (เช่น techuptrend.com) → Continue → เลือก Free planContinue
  3. ตรวจสอบ DNS Records (ข้ามไปก่อนได้) — Cloudflare จะสแกนเรคอร์ดเดิม ถ้าโดเมนใหม่มักยังไม่มี → คลิก Continue และ Confirm
  4. คัดลอก Name Servers ของ Cloudflare — ระบบจะแสดง NS สองชุด (เช่น luke.ns.cloudflare.com, amy.ns.cloudflare.com) ให้คัดลอกไว้เพื่อนำไปอัปเดตที่ Namecheap
  5. อัปเดต Name Servers ที่ Namecheap — ไปหน้าโดเมนของคุณ เลือก Name Servers → Custom DNS วาง NS ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 ลงในช่อง แล้วกดเครื่องหมายถูกสีเขียวเพื่อบันทึก
  6. ยืนยันใน Cloudflare — กลับมาที่แท็บ Cloudflare กด Continue และ Finish later จากนั้นกด Check Name Servers Now; จะมีอีเมลแจ้งเมื่อสำเร็จ และหน้าจอจะแสดง “Cloudflare is now protecting the site”
  7. เปิดหน้า DNS Records — แถบซ้ายคลิก DNS → Records (เก็บหน้านี้ไว้ เราจะกลับมาเพิ่ม A/AAAA/CNAME เพื่อชี้ไปยัง Vultr VPS)
↑ กลับด้านบน

ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้ง WordPress บน Vultr

เข้าไปที่ Vultr แล้วสมัครสมาชิก

ลิงก์เครดิต $300 ฟรี แนะนำให้ใช้ให้คุ้ม!

ขั้นตอนการสร้าง VPS:

  1. ไปที่แถบ Products > Compute > Deploy Instance

  2. เลือก:

    • Cloud Compute / Shared CPU

    • Server Location: เลือกใกล้ไทย (เช่น Singapore)

    • Marketplace > OpenLiteSpeed WordPress

    • แผน RAM 1GB 

    • เปิด Backups 

    • ตั้งชื่อ VPS เป็นชื่อเว็บของคุณ

  3. คลิก Deploy แล้วรอ ~10 นาที

เมื่อ Deploy เสร็จ คุณจะได้ IP Address พร้อมรหัสผ่าน SSH

กดอ่านขั้นตอนแบบละเอียด Give $300
ปรับใช้ OpenLiteSpeed WordPress บน Vultr
สร้าง VPS และติดตั้งเทมเพลต OpenLiteSpeed WordPress เพื่อเริ่มเว็บไซต์เร็วและแรง
แผนที่ใช้งานอยู่
1 vCPU RAM 1 GB Storage 32 GB NVMe $7.70/เดือน เพียงพอแล้ว ✅
  1. สมัครหรือเข้าสู่ระบบบัญชี Vultr
    • เข้าสู่ระบบ Vultr ของคุณ
  2. เริ่ม Deploy Server ใหม่
    • คลิกเมนูด้านซ้าย Products > Compute
    • คลิกปุ่ม Deploy
  3. เลือกประเภท CPU และตำแหน่ง Data Center
    • Choose Type: เลือก Cloud Compute และ Shared CPU (หรือ High Frequency / High Performance หากต้องการแรงขึ้น)
    • Server Location: เลือกศูนย์ข้อมูลใกล้ผู้ชมของคุณ (ไทยแนะนำสิงคโปร์/ญี่ปุ่น)
  4. เลือก Marketplace App: OpenLiteSpeed WordPress
    • คลิกแท็บ Marketplace
    • ค้นหาและเลือก OpenLiteSpeed WordPress
  5. เลือกแผน Instance
    • แผนปัจจุบันของคุณ: 1 vCPU / 1 GB RAM / 32 GB NVMe — $7.70/เดือน เพียงพอแล้ว สำหรับเริ่มต้นและเว็บขนาดเล็ก-กลาง
    • อัปเกรดได้ทุกเมื่อเมื่อทราฟฟิกเติบโต
    • IPv6 Address: แนะนำให้เปิดใช้งาน
  6. กำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติม
    • SSH Key: ข้ามได้เพื่อให้ Vultr สร้างรหัสผ่านให้
    • Startup script: ข้าม
    • Server Hostname and Label: ใส่ชื่อโฮสต์/ป้ายกำกับ (เช่น โดเมนของคุณ wphostingtips.uk)
    • DDoS Protection: ฟีเจอร์เสริม เลือกใช้ตามต้องการ
    • Automatic Backups: เปิดใช้เมื่อพร้อม (แนะนำเพื่อความอุ่นใจ)
  7. ปรับใช้เซิร์ฟเวอร์
    • คลิก Deploy แล้วรอ ~10 นาที
    • เมื่อเสร็จ IP Address จะพร้อมใช้งาน
  8. คัดลอก IP Address ของเซิร์ฟเวอร์ Vultr
    • คลิกชื่อเซิร์ฟเวอร์เพื่อดูรายละเอียด
    • คัดลอก IP หลัก (IPv4) และ IPv6 เก็บไว้
↑ กลับด้านบน

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมโดเมน + ติดตั้ง WordPress จริง ๆ

  • 1. กลับไปที่ Cloudflare > DNS

    เพิ่ม A Record และ AAAA Record:

    • A Record: @ ชี้ไปยัง IPv4 จาก Vultr

    • AAAA Record: @ ชี้ไปยัง IPv6

    • CNAME Record: www ชี้ไปที่ @

    2. เปิด Git Bash หรือ Terminal แล้ว SSH เข้า VPS:

     
    ssh root@YOUR_IP

    ใส่รหัสผ่านที่ Vultr ให้มา แล้วคุณจะเข้าสู่ระบบอัตโนมัติของ OpenLiteSpeed

    ทำตามนี้:

    • ป้อนชื่อโดเมนของคุณ (เช่น yoursite.com)

    • ตอบ Y เพื่อเปิดใช้งาน SSL

    • ใส่อีเมลของคุณ แล้วตอบ Y อีกที

    • เลือกบังคับให้ใช้ HTTPS ตลอด

    • ระบบจะเริ่มอัปเดต

    เสร็จแล้ว… ลองเข้า https://yoursite.com ในเบราว์เซอร์!

    หากยังไม่เจอหน้า WordPress รอระบบทำงานให้เสร็จ (~5 นาที)

    3. ดำเนินการติดตั้ง WordPress:

    • ใส่ชื่อเว็บ, ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, อีเมล แล้วกด Install

    • เสร็จแล้ว Login เข้า Dashboard ได้เลย

กดอ่านขั้นตอนแบบละเอียด
เชื่อมต่อโดเมน & ติดตั้ง WordPress (ผ่าน SSH และเบราว์เซอร์)
ชี้โดเมนที่ Cloudflare → ออก SSL อัตโนมัติบนเซิร์ฟเวอร์ → ตั้งค่า WordPress ผ่านเว็บ
  1. เพิ่ม DNS Records ใน Cloudflare (ชี้ไป Vultr)
    • ไปที่ DNS → Records
    • A record — Name: @, IPv4 address: YOUR_IPV4, Proxy: ปิด (เมฆเทา) → Save
    • AAAA record — Name: @, IPv6 address: YOUR_IPV6, Proxy: ปิด → Save
    • CNAME record — Name: www, Target: @, Proxy: ปิด → Save
    เหตุผลที่ “ปิด Proxy” ตอนนี้: ลดปัญหาออกใบรับรอง HTTPS ครั้งแรก หลังจากออก SSL สำเร็จแล้ว ค่อยเปิดเมฆส้มได้
  2. เตรียม SSH Client
    • Windows: ติดตั้ง Git for Windows แล้วเปิด Git Bash
    • macOS/Linux: ใช้ Terminal
  3. เข้าเซิร์ฟเวอร์ Vultr ผ่าน SSH
    • คัดลอก IPv4 ของเซิร์ฟเวอร์
    • เชื่อมต่อ: ssh root@YOUR_IPV4 (เช่น ssh root@203.0.113.1)
    • พิมพ์ yes เพื่อยอมรับ fingerprint ครั้งแรก
    • วางรหัสผ่านจากหน้าเซิร์ฟเวอร์ใน Vultr (ขณะพิมพ์จะไม่แสดง) แล้วกด Enter
  4. ติดตั้ง OpenLiteSpeed WordPress (อัตโนมัติ)
    • เมื่อระบบถาม Domain → ใส่โดเมนของคุณ (เช่น yourdomain.com) → Enter
    • ยืนยันโดเมน: พิมพ์ Y → Enter
    • ออกใบรับรอง Let's Encrypt? พิมพ์ Y → Enter
    • ใส่อีเมลสำหรับใบรับรอง → Enter → ยืนยันอีเมล Y
    • บังคับใช้ HTTPS rewrite? พิมพ์ yes → Enter
    • ถามอัปเดตระบบตอนนี้? กด Enter เพื่อเริ่มอัปเดต
    • ดูรหัสผ่านสำคัญภายหลังได้ใน SSH:
      • MySQL root: sudo cat db_password
      • LiteSpeed WebAdmin: sudo cat webadmin_password
  5. ทดสอบผ่านโดเมน & รออัปเดต
    • เข้า https://yourdomain.com จะเห็นว่า SSL ขึ้นปลอดภัย
    • ถ้าเจอ “Error establishing a database connection” ให้รอการอัปเดตเสร็จ แล้วรีเฟรช
    • เช็คอัปเดตเองได้ด้วย sudo apt update และ sudo apt upgrade
  6. ติดตั้ง WordPress ผ่าน Web Interface
    • เมื่อหน้าโหลดเสร็จ จะเห็นหน้าตั้งค่า WordPress
    • กรอก Site Title, Username, Password, Email
    • ถ้าเป็นเว็บใหม่ เลือก Discourage search engines… ได้
    • คลิก Install WordPress (ปกติ < 30 วินาที)
  7. เข้าสู่ WordPress Dashboard
    • คลิก Login → ใส่ Username/Password ที่ตั้งไว้
    • ลองติดตั้งปลั๊กอินใหม่ เพื่อทดสอบสิทธิ์ไฟล์
↑ กลับด้านบน

ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่า SSL แบบ Full Strict (ขั้นเทพของความปลอดภัย)

  1. ไปที่ Cloudflare > SSL/TLS > ตั้งค่าเป็น “Full (Strict)”

  2. ไปที่ “Origin Server” > สร้าง Certificate ใหม่

  3. คัดลอก Certificate และ Private Key ลงใน Notepad

  4. SSH เข้าเซิร์ฟเวอร์ Vultr อีกครั้ง

 
cd /etc/nginx/ssl
sudo vim server.crt # วาง Certificate
sudo vim server.key # วาง Private Key
  1. Restart เซิร์ฟเวอร์

 
sudo reboot
  1. เข้า Cloudflare > Edge Certificates > เปิด “Always Use HTTPS” และ “Automatic HTTPS Rewrites”

  2. กลับไปที่ WordPress > Settings > General > เปลี่ยน URL ให้ขึ้นต้นด้วย https://

กดอ่านขั้นตอนแบบละเอียด Full Strict
เพิ่มความปลอดภัยด้วย Cloudflare Full Strict SSL
แม้มี Let's Encrypt แล้ว แต่โหมด Full Strict จะยืนยันใบรับรองระหว่าง Cloudflare ↔ Origin (เซิร์ฟเวอร์คุณ) ให้แน่นหนาที่สุด
  1. เปลี่ยนโหมด SSL/TLS เป็น “Full Strict”
    • เข้า Cloudflare → เมนูซ้าย SSL/TLS → แท็บ Overview
    • เลือกโหมด Full (strict)
  2. สร้าง Cloudflare Origin Certificate
    • เมนูซ้าย SSL/TLS → Origin Server → กด Create Certificate
    • ใช้ค่าเริ่มต้นได้เลย → Create
    • คัดลอก Origin Certificate และ Private Key เก็บไว้ในไฟล์บนเครื่อง (Cloudflare จะไม่เก็บ Private Key ให้)
  3. อัปโหลด Certificate/Key ไปยังเซิร์ฟเวอร์ (ผ่าน SSH)
    • เชื่อมต่อ: ssh root@YOUR_IPV4
    • สร้าง/ใช้โฟลเดอร์เก็บใบรับรอง (ตัวอย่างทั่วไปบน Ubuntu):
    mkdir -p /etc/ssl/certs /etc/ssl/private
    chmod 700 /etc/ssl/private
    
    • ล้างไฟล์เดิมถ้ามี (ระวังพิมพ์ชื่อให้ถูก):
    rm -f /etc/ssl/certs/server.crt /etc/ssl/private/server.key
    
    • สร้างไฟล์ใหม่ด้วย vim (หรือใช้ nano ถนัดกว่า):
    vim /etc/ssl/certs/server.crt
    # กด i → วาง Origin Certificate ทั้งบล็อก → Esc → :wq → Enter
    
    vim /etc/ssl/private/server.key
    # กด i → วาง Private Key ทั้งบล็อก → Esc → :wq → Enter
    
    chmod 600 /etc/ssl/private/server.key
    
    หมายเหตุ: บางอิมเมจ OpenLiteSpeed อาจใช้พาธอื่น (เช่น /usr/local/lsws/conf/ หรือกำหนดใน vHost/Listener ของ OLS) — หากไฟล์นี้ไม่ถูกอ่าน ให้เปิด OLS WebAdmin แล้วชี้พาธสองไฟล์นี้ในส่วน SSL ของ Listener/Virtual Host
  4. รีบูตบริการเว็บ (หรือรีบูตเครื่อง)
    • รีสตาร์ทบริการ OLS: systemctl restart lsws (ถ้าไม่แน่ใจ ให้ reboot ทั้งเครื่องได้)
  5. ตั้งค่า Cloudflare Edge Certificates
    • กลับไป Cloudflare → SSL/TLS → Edge Certificates
    • เปิด (Toggle on): Always Use HTTPS และ Automatic HTTPS Rewrites
↑ กลับด้านบน

ขั้นตอนที่ 6 : อัปเดตที่อยู่ WordPress ให้เป็น HTTPS ใน Dashboard:

เข้าสู่ระบบ WordPress Admin Dashboard ของคุณอีกครั้ง (อาจต้องเข้าสู่ระบบใหม่)
ไปที่เมนูด้านซ้าย “Settings” -> “General”
ในช่อง “WordPress Address (URL)” และ “Site Address (URL)” ให้เปลี่ยนจาก http://yourdomain.com เป็น https://yourdomain.com
เลื่อนลงไปคลิก “Save Changes”
คุณอาจต้องเข้าสู่ระบบ WordPress อีกครั้งหลังจากขั้นตอนนี้

ถ้าคุณมาอ่านถึงตอนนี้

แสดงว่าการติดตั้ง WordPressก็ไม่ได้ยากเกินไป และตอนนี้คุณมีเว็บไซต์ WordPress ที่ติดตั้งบน Cloud VPS จริง ๆ แล้ว! ยินดีด้วยครับ 🎉

เร็ว ปลอดภัย SSL ครบ พร้อมลุยต่อ! 

ตอนต่อไป

ในตอนถัดไป เราจะมาแนะนำการตั้งค่า WordPress ให้พร้อมใช้งาน เช่น ปลั๊กอิน ธีม SEO และการเขียนบทความให้ติด Google 💡

From the same category